โกเบบีฟ

โกเบบีฟ
※提供元:神戸肉流通推進協議会

หมายเลขจดทะเบียน 3
ชื่อของ GI โกเบบีฟ, โกเบนิคุ, โกเบกิว, KOBE BEEF
การแบ่งประเภท เนื้อ
วันที่ลงทะเบียน 2015/12/22
พื้นที่ทำการผลิต จังหวัดเฮียวโกะ
ติดต่อที่อยู่

สมาคมส่งเสริมการจัดจำหน่ายเนื้อวัวโกเบ

88 อิสุมิ ทะมะซึโจ, นิชิคุ, โกเบชิ จังหวัดเฮียวโกะ

http://kobe-niku.jp

พื้นที่ผลิต

"โกเบบีฟ" เป็นเนื้อวัวที่ได้จากวัวทาจิมะระดับยอดเยี่ยมซึ่งเลี้ยงอยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ จะนำมาเลี้ยงเป็นวัวพันธุ์หรือโคขุนนำมาเลี้ยงโดยใช้เวลาประมาณกว่า 28 เดือนเป็นอย่างต่ำ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 32 เดือนได้มาซึ่งเนื้อที่มีคุณภาพดีเทียบเท่ากับเนื้อวัวในอุดมคติ

วัวทาจิมะซึ่งเป็นวัวพันธุ์หรือโคขุนของ "โกเบบีฟ" นั้นได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ในหลายต่อหลายครั้งจนได้มาซึ่งผิวที่บางและเต็มได้ด้วยความยืดหยุ่น มีขนอ่อนนุ่มราวกับขนของสัตว์ปีกและมีกล้ามเนื้อแน่น ในเรื่องรสชาติของเนื้อวัวนั้นมีรสอร่อยเป็นเลิศอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกระดูกที่บางและไขมันใต้ผิวหนังมีน้อยจึงทำให้ส่วนที่นำมารับประทานมีอยู่มาก กล่าวได้ว่าเป็นวัวเนื้อที่อุดมไปด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการนำมารับประทานเป็นอย่างยิ่ง

คุณภาพของเนื้อนั้นมีความนุ่มละเอียด มีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อมาก สีแดงสดของกล้ามเนื้อกับสีขาวของไขมันนั้น ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสดใสน่ารับประทานเรียกว่าเป็น "เนื้อไขมันแทรกลายหินอ่อน" เกรดสูงสุด เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติ ก็จะได้สัมผัสถึงความนุ่มอร่อยเมื่อเข้าปาก ราวกับละลายหายไปภายในปากนั้นทำให้ได้สัมผัสถึงรสชาติกลมกล่อมที่กระจายอยู่ทั่วปากซึ่งเป็นรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

วัวทาจิมะซึ่งเป็นวัวพันธุ์หรือโคขุนนี้เดิมทีถูกเลี้ยงเป็นโคที่ใช้แรงงานในการทำการเพาะปลูกและการขนส่งในการเกษตรตามเชิงเขาในชนบทของภาคเหนือของจังหวัดเฮียวโกะตั้งแต่โบราณประมาณ 1200 ปีก่อน ถูกเลี้ยงดูอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ทุ่งหญ้าบนเนินเขาที่เขียวขจี ลำธารน้ำไหลที่ใสสะอาดและอากาศอันสดชื่นปลอดโปร่ง ในช่วงสมัยเมจิ (ปีค.ศ.1868 - 1912) ก็ได้รับการยอมรับว่าสายพันธุ์วัวเนื้อที่มีคุณภาพดีนั้นมีการถ่ายทอดทางสายเลือด หลังจากได้เข้าใจในด้านพันธุกรรมแล้วได้ใช้เวลาอันยาวนานปีแล้วปีเล่าในการปรับปรุงคุณภาพเนื้อจนกระทั่งได้มาซึ่งวัวพันธุ์เนื้อที่มีคุณภาพเนื้อที่ยอดเยี่ยมนี้

เมื่ออ้างอิงหน้าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น "โชะคุนิฮอนงิ"ซึ่งเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องที่ทำขึ้นเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 797 ของสมัยนารา ได้ถูกบันทึกไว้ว่า "วัวทาจิมะ นั้นไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อใช้แรงงานในด้านการเกษตรเพียงเท่านั้นแต่เหมาะเป็นอย่างมากที่จะใช้เป็นวัวลากเกวียนด้วย"จากการที่มีสรีระร่างกายที่เล็กและมีเนื้อแน่น สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเหมาะต่อการแบกขนสัมภาระและงานด้านการเกษตรในที่นาขั้นบันไดแคบๆจึงถูกใช้เป็นตัวหลักสำคัญ จากการที่ถูกเลี้ยงด้วย หญ้าอ่อนๆ ของพื้นที่นี้ ซึ่งมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน มีน้ำค้างลงในตอนกลางคืนและแหล่งน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมิเนอรัล เหล่านี้ได้สร้างคุณภาพเนื้อของวัวทาจิมะให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นเป็นเฉพาะ

ในฐานะเนื้อสำหรับบริโภคนั้น การที่เนื้อวัวทาจิมะได้ถูกนำมาบริโภคมีมูลเหตุมาจากการเปิดท่าเรือโยโกฮามะในปี คศ.1859 และการเปิดท่าเรือโกเบในปี ค.ศ. 1968 กล่าวกันว่าชาวต่างประเทศที่เข้ามาประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้น ได้รับประทานเนื้อวัวทาจิมะแล้วหลงเสน่ห์ในรสชาติความอร่อยนี้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีร้าน "กิวนาเบะยะ" เปิดขึ้นในตัวเมือง และในสมัยไทโช "สุกี้ยากี้" ก็ได้กลายมาเป็นเมนูที่อยู่บนโต๊ะอาหารตามครัวเรือนทั่วไป "โกเบบีฟ" นั้นก็ได้กลายมาเป็นตัวแทนแห่งอาหารรสเลิศมาจนกระทั่งทุกวันนี้

Back to
top

เผยแพร่ความมีเสน่ห์อันน่าสนใจของผลิตภัณฑ์พิเศษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น